เรื่อง ข้อมูลอาชีพอิสระ
หน้าแรก
ข้อมูลอาชีพอิสระ
การประกอบอาชีพอิสระ
ปัจจัยการประกอบอาชีพอิสระ
อาชีพอิสระ
แนวทางการประกอบอาชีพอิสระ
องค์ประกอบที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเ
การบริการ การเกษตร
การทำอาชีพอิสระ
ประเภทของอาชีพอิสระ
>
การเกษตรกรรม
การประมง
การเพาะปลูก
ประวัติและการติดต่อ
ใบงาน
การบริการ
- ตรงเวลา บริการดีมีคุณภาพ ทำเลเหมาะสม สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า มีลูกค้าประจำ และมีบริการหลังการขายซื้อมาขายไป
- มีทำเลและสถานที่ที่เหมาะสม มีสินค้าให้เลือกหลากชนิด ราคาที่สมเหตุผลมีสินค้าคงคลังพอดี และปฏิบัติต่อลูกค้าเป็นอย่างดี
การเกษตร
ใช้ผืนดินหรือพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ต้นทุนการผลิตต่ำ การขนส่งมีประสิทธิภาพ และมีผลผลิตที่สูงและมีคุณภาพ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจที่จะประสบผลสำเร็จได้นั้น จะต้องมีการพัฒนาตัวเองในด้านความคิด ซึ่งประกอบด้วย
- มีพลังปัญญาความคิด เห็นถึงปัญหาที่แท้จริง รู้ถึงสาเหตุของปัญหา และวิธีแก้ไข
- มีพลังวิริยะความเพียร ในการทำงานให้สำเร็จ ทั้งการลงทุน การผลิตและการตลาด
มีความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง
- มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น คือ การดำเนินธุรกิจต้องสร้างความเชื่อถือ ศรัทธา
ไว้วางใจให้กับตนเอง องค์กร และผลิตภัณฑ์เป็นสำคัญ
- มีพลังแห่งไมตรี เอื้ออาทร ต้องมีหลักการบริการที่ดี สร้างความประทับใจให้เกิดขึ้น
และสามารถรักษาลูกค้าเก่า หาลูกค้าใหม่
อาชีพเลี้ยงหมูป่า เกษตรกรสามารถเลี้ยงเพื่อเป็นรายได้หลักหรือเสริมก็ได้
หมูป่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย สามารถใช้อาหารในท้องถิ่นที่มีคุณภาพต่ำและเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นอาหารได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันความต้องการในการบริโภคเนื้อหมูมีค่อนข้างมากแต่มีผู้เลี้ยงน้อย ทำให้ผลผลิตเนื้อ
หมูป่า
มีไม่เพียงพอ ดังนั้น ราคาเนื้อหมูป่าจึงสูงกว่าราคาเนื้อหมูปกติทั่วไป เกษตรกรจึงหันมาสนใจเลี้ยงมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเลี้ยงหมูในป่าในเชิงอนุรักษ์ เพื่อทดแทนหมูป่าตาธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันมี จำนวนน้อยลง
เงื่อนไขความสำเร็จ 1
พื้นที่ที่ใช้เลี้ยงหมูป่าต้องอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูกหรือมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงหมูป่าอย่างเพียงพอ
2 เกษตรกรต้องมีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงหมูป่า
3 ต้องมีแหล่งจำหน่ายพันธุ์และตลาดรับซื้อหมูป่าที่ชัดเจน แน่นอน
เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต
พันธ์หมูป่า
ลักษณะรูปร่างของสุกรป่าทั่วไปจะมีขนหยาบแข็ง มีสำน้ำตาลเข้มหรือ สีดำเข้ม หรือสีดอกเลา หนังหนา หน้ายาว จมูกยาว และแหลมกว่าสุกรพันธุ์พื้นเมือง ขาเล็กและเรียว ดูปราดเปรียวทั่วไปจะพบอยู่ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์หน้ายาว และพันธุ์หน้าสั้น
โรงเรือนและอุปกรณ์
เนื่องจากหมูป่ายังมีพฤติกรรมเป็นสัตว์ป่า มีอาการตื่นเมื่อคนอยู่ใกล้ และอาจจะแสดงอาการดุร้าย ดังนั้น โรงเรือนจะต้องสร้างให้แข็งแรงทนทาน โดยใช้วัสดุก่อสร้างที่หาในบริเวณพื้นที่อาจไม่จำเป็นต้องเทพื้นซีเมนต์ แต่ต้องมีรั้วรอบที่มิดชิด ป้องกันหมูป่าขุดดินมุดหนีออกมานอกรั้วได้ ควรจะมีการแยกคอก พ่อ-แม่พันธุ์, คอกคลอดเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดกับลูกหมูป่า
อาหารและการให้อาหาร
อาหารหมูป่า มีความหลากหลาย เนื่องจากหมูป่า สามารถใช้อาหารในท้องถิ่นที่มีคุณภาพต่ำและเศษวัสดุเหลือใช้ทางเกษตรได้เป็นอย่างดี เช่น ต้นกล้วย มันสำปะหลัง มันเทศ ข้าวโพด ผลปาล์ม ผักชนิดต่างๆ นอกจากนี้สามารถผสมอาหารเลี้ยงหมูป่าได้เอง โดยใช้มันเส้นสับเป็นชิ้นเล็กๆ 60 ส่วน รำ 40 ส่วน เกลือป่นเล็กน้อยคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักในภาชนะปิดสนิท นาน 1 เดือน จากนั้นนำมาให้หมูป่ากินเป็นอาหาร โดยให้วันละมื้อ
การจัดการเลี้ยงดู
เกษตรกรควรเริ่มด้วยการเลี้ยงหมูป่าพ่อ-แม่พันธุ์อายุ 3 เดือน การจัดการเลี้ยงดูหมูป่าควรใช้อัตราการผสมพันธุ์พ่อพันธุ์ 1 ตัวต่อแม่พันธุ์ 5-10 ตัว หมูสาวผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุ 7 เดือน และจะอุ้มท้อง 114 วัน โดยจะให้ลูกประมาณ 5-6 ตัวต่อครอก ซึ่งพ่อ-แม่พันธุ์จะสามารถเลี้ยงเพื่อผสมพันธุ์ได้นานประมาณ 5-6 ปี การเลี้ยงพ่อ-แม่พันธุ์ควรจะต้องแยกเป็นสัดส่วน เมื่อแม่หมูป่าท้องใกล้คลอดจะต้องแยกแม่ออกจากฝูงมาอยู่ที่คอกคลอดเพื่อป้องกันพ่อหมูป่ากัดทำร้ายลูก ซึ่งในระยะนี้ผู้เลี้ยงควรระวังอันตรายจากแม่หมูป่าเพราะจะมีนิสัยดุร้ายขึ้น ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรที่จะรบกวนแม่หมูป่าให้น้อยที่สุดการเลี้ยงปัจจุบันจะมุ่งเพื่อการจำหน่ายพันธุ์ ได้แก่ ลูกหมูป่าอายุ 3 เดือน แต่ถ้าเลี้ยงจนโตหมูป่าที่โตเต็มที่จะหนักประมาณ 80 กิโลกรัม ก็จะจำหน่ายให้กับผู้บริโภคได้
การสุขาภิบาล
ถึงแม้ว่าหมูป่าจะมีสุขภาพแข็งแรงกว่าสุกรชนิดอื่นๆ แต่ผู้เลี้ยงก็ควรจะต้องให้ความสนใจหมั่นดูแลสุขภาพหมูป่าที่เลี้ยง ควรมีการถ่ายพยาธิและทำวัคซีนตามโปรแกรมที่กำหนด
ต้นทุนและผลตอบแทน สำหรับการเลี้ยงหมูป่า 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วย พ่อพันธุ์ 1 ตัวและแม่พันธ์ 5 ตัว
ต้นทุน
ในส่วนต้นทุนหลัก จะได้แก่ ค่าพ่อแม่พันธุ์ ค่าโรงเรียนและอุปกรณ์ ซึ่งจะมีต้นทุนประมาณ 15,000 – 25,000 บาท